แค่คำว่าเซียน ต้องอยู่บนเมฆลำบากแล้วก็เหงาด้วย ได้ดูแต่สงครามนางฟ้า ถ้าเป็นเซียนใหญ่เดี๋ยวจะไม่มีที่อยู่นาครับ มันจะโตคับเว็บไปหรือเปล่า
เข้าเรื่องเลย พระพิมพ์นี้ยืนยันว่าเป็นของวัดโบสถ์ ปทุมธานี ตามหลักฐานที่พี่นำมาด้านหน้าเหมือนกันทุกประการ แต่ด้านหลังซิ กลายเป็น
หลวงพ่อสังข์ สุริโย วัดนากันตมระบุปี พ.ศ. 2512ไปได้ บางครั้ง ก็พบว่าด้านหลัง
มีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดูฉิมพลี ด้วย สาเหตุคงมาจาก วัดโบสถ์ จ.ปทุมธานีนั้นเป็นที่รู้กันว่าหลวงปู่เทียน ท่านเป็นพระมอญเก่งทั้งเรื่องผงและคงกระพันโดยเฉพาะผง 12 นักษัตริย์ เกจิหลายรูปมาเรียนวิชาจากสำนักนี้ หลวงพ่อลมูล หรือ ส.พัฒนกิจ ที่เห็นประทับชื่อหลังสมเด็จเมื่อหลวงปู่เทียนท่านล่วงไปแล้วเป็นผู้ดูแลวััดสืบมา ก็มักจะนิมนต์พระเกจิจากทั่วประเทศ มาปลุกเสกพระที่วัดท่านเสมอ องค์ใดเป็นที่ยอมรับนับถือ ก็ถวายพระกลับไปด้วยในพิมพ์ที่เห็นกันอยู่นี้ องค์ใดมาบ่อย หรือสนิทชิดเชื้อเป็นพิเศษ ก็้ทำพระสมเด็จด้านหลังเป็นพระเกจิองค์นั้นแล้วถวายไปด้วยเลย
สรุปคือพระพิมพ์นี้หลวงพ่อต้องได้รับมาจากวัดโบสถ์แน่นอน เหมือนคราวไปวัดปราสาทว่ากันว่าหลวงพ่อไปด้วย มีหลักฐานว่าท่านไปคือ ท่านลงแผ่นอักขระไว้ที่นั่นด้วยยันต์หลังปรกโพธิ์ แ
ละรับสมเด็จพิมพ์คะแนนที่ทางท่านสมุห์อำพล ถวายมาแจก ส่วนหลวงพ่อมุ่ยท่านได้รับหลวงปู่ทวด เป็นเนื้อลังเม้งมา 1 ลังเบียร์ เรื่้่องนี้ถามเฮียกวยหรืออาจารย์กวย ของคุณสำนักจันทร์ดูได้ เนื่องจากมีช่วงหนึ่งแกได้ไปเช่าหลวงปู่ทวด มาจากศิษย์หลวงพ่อมุ่ยซึ่งยืนยันว่าหลวงพ่อมุ่ยไปงานพิธีนั้นและได้รับการถวายจากทางวัดปราสาทมาแต่ไม่ได้แจกออกไป